จากการปฎิรูประบบราชการ ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2545 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นลำดับ ได้แก่ พระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหาร และอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 และพระราชกฤษฎีกาแก้ไขบทบัญญัติให้สอดคล้องกับการโอนอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ตลอดจนกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2545
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1-16 เป็นราชการบริหารส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคและเป็นส่วนราชการระดับกอง ซึ่งเป็นการโอนกิจการบริหาร และอำนาจหน้าที่ของสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1-12 สังกัดสำนักงานโนบายและแผนสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม และของศูนย์อนามัยสิ่งแวดล้อมเขต 1-12 (ยกเว้น กลุ่มงานสุขาภิบาลอาหาร กลุ่มงานอาชีวอนามัยและกลุ่มงานจัดหาน้ำสะอาด) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งเป็นสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1-16 ดังนี้
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 (เชียงใหม่) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และลำพูน |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 2 (ลำปาง) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ พะเยา ลำปาง แพร่ และสุโขทัย |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 3 (พิษณุโลก) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 4 (นครสวรรค์) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 (นครปฐม) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ชัยนาท สุพรรณบุรี สมุทรสาคร และนครปฐม |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 6 (นนทบุรี) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 7 (สระบุรี ) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี นครนายก และปราจีนบุรี |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 (ราชบุรี ) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 9 (อุดรธานี ) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ เลย อุดรธานี หนองคาย นครพนม และสกลนคร |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 (ขอนแก่น) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ หนองบัวลำภู ชัยภูมิ มหาสารคาม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และบึงกาฬ |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีษะเกษ |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 12 (อุบลราชธานี) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14 (สุราษฎร์ธานี) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 (ภูเก็ต) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 (สงขลา) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส |
ตามคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 1169/2560 ลงวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เรื่อง การกำหนดจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 - 16 สืบเนื่องจากรัฐบาล ได้มีการกำหนดแนวเขตพื้นที่ระดับภาค ทั้ง 6 ภาค ในการพัฒนาประเทศระดับพื้นที่ภูมิภาคในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน และให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ หรือนโยบายของรัฐบาล สามารถตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนซ้ำซากของพื้นที่
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการของสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศระดับพื้นที่ภูมิภาค อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงให้กำหนดจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 - 16 ดังนี้
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 (เชียงใหม่) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และลำพูน |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 2 (ลำปาง) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ลำปาง พะเยา แพร่ และน่าน |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 3 (พิษณุโลก) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ พิษณุโลก ตาก อุตรดิตถ์ สุโขทัย และเพชรบูรณ์ |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 4 (นครสวรรค์) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี และพิจิตร |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 (นครปฐม) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ นครปฐม ชัยนาท สุพรรณบุรี และสมุทรสาคร |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 6 (นนทบุรี) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ นนทบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 7 (สระบุรี ) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ สระบุรี ลพบุรี นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 (ราชบุรี ) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ราชบุรี สมุทรสงคราม กาญจนบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 9 (อุดรธานี ) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ อุดรธานี เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 (ขอนแก่น) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และหนองบัวลำภู |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และชัยภูมิ |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 12 (อุบลราชธานี) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด และสมุทรปราการ |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14 (สุราษฎร์ธานี) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร พัทลุง และนครศรีธรรมราช |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 (ภูเก็ต) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และระนอง |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 (สงขลา) |
พื้นที่รับผิดชอบได้แก่ สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส |
ตามกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2565 ณ วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 ฉ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2543 ข้อ 3 ให้แบ่งส่วนราชการกรมควบคุมมลพิษ ดังต่อไปนี้
1. สำนักงานเลขนุการกรม
2. กองกฎหมาย
3. กองจัดการกากของเสียและสารอันตราย
4. กองจัดการคุณภาพน้ำ
5. กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง
6. กองตรวจมลพิษ
7. กองยุทธศาสตร์และแผนงาน
8. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
9. ศูนย์ปฏิบัติการวิเคราะห์มลพิษและสิ่งแวดล้อม
10. สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1-16
เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มีการตัดโอนสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 - 16 จากสานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนภารกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 - 16 มาเป็นของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 - 16 กรมควบคุมมลพิษ สมควรปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการและหน้าที่และอำนาจของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้น และเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้